ที่จริงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เมื่อมองอย่างผิวเผินก็น่าจะสรุปได้ว่าทำให้ชาวนาและสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการทำนาได้รับผลดีมากขึ้นกว่าเดิม หรือที่เรียกว่ามีความเจริญขึ้นกว่าเดิม หรือน่าจะมีความสุขในชีวิตมากกว่าเดิม เช่นครอบครัวมีความอบอุ่นมากกว่าเดิม มีทรัพย์สินเงินทองมากกว่าเดิม ไม่มีหนี้สิน ลูกหลานได้เล่าเรียนสูงขึ้น ลูกหลานมีโอกาสได้ทำงานเป็นเจ้าคนนายคนมากขึ้น มีสุขภาพดีขึ้น
ความเป็นจริงในวันนี้
แต่ทว่าความเป็นจริงอันเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอยู่ในชีวิตชาวนาวันนี้กลับไม่เป็นเช่นนั้นเลย ผู้ที่ประสบความสำเร็จความสมหวังและมั่งมีมั่งคั่งมากยิ่งขึ้น กลับกลายเป็นกลุ่มนักธุรกิจ นักลงทุน พ่อค้าข้าว เจ้าของโรงสี ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องมือเครื่องใช้เครื่องจักรกลเพื่อการเกษตร และดูเหมือนว่าสินค้าและเงื่อนไขต่าง ๆ ที่คนกลุ่มนี้ต้องการได้ฝังรากลึกลงสู่แบบแผนการทำนาที่ยากจะสลัดได้ด้วยกำลังความสามารถของชาวนาคนใดคนหนึ่ง
วันพรุ่งนี้
เมื่อพิจารณาสถานการณ์ของชาวนาที่เป็นอยู่ในวันนี้พร้อมสาเหตุความเป็นมาตั้งแต่วันวานรวมทั้งความคาดหวังที่เกิดขึ้นแล้ว จะเห็นแนวโน้มในอนาคตได้ว่าชาวนาไม่มีโอกาสที่จะรักษามรดกทางสังคมและวัฒนธรรมไว้ได้ หากปล่อยให้การเปลี่ยนแปลงยังคงเป็นไปอย่างนี้ ที่สำคัญคือเมื่อการทำนากลายเป็น การทำนาคือชีวิต การทำนาคือองค์รวมแห่งชีวิต การทำนาไม่ได้มีความหมายเพียงการปลูกข้าวไว้กินหรือขายอย่างเดียวแต่หมายถึงทุกสิ่งทุกอย่างในการดำรงชีพ ทุกสิ่งทุกอย่างในความเป็นคน เมื่อการทำนากลายเป็นการประกอบอาชีพเช่นนี้ อนาคตจึงอาจจะ ไม่มีชาวนาในสังคมไทย จะมีแต่ ผู้ประกอบการทำนา และกรรมกรชาวนา นั่นหมายถึงการล่มสลายของวัฒนธรรมข้าวที่เป็นพื้นฐานของสังคมไทยซึ่งสั่งสมกันมาเป็นเวลานาน หมายถึงการล่มสลายของระบบสังคมที่ให้ความสำคัญต่อคุณค่าทางจิตวิญญาณ หมายถึงการล่มสลายของระบบพึ่งตนเองของชุมชนไทย สิ่งที่เกิดขึ้นคือคุณค่าความเป็นคน อิสรภาพ เสรีภาพ ภราดรภาพ โอกาสทางเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมของกรรมกรชาวนา(หรือชาวนาวันนี้ที่แปรสภาพไปเป็นผู้ใช้แรงงานในไร่นาวันพรุ่งนี้) จะเหลืออยู่เพียงน้อยนิด วัดผลกันตามกำลังกายหรือกำลังแรงงานที่มีอยู่เฉกเช่นที่เกิดขึ้นกับวัวควายในวันนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น